วัฒนา โวยถูกกล่าวหาทุจริตบ้านเอื้ออาทร

โดย ACT โพสเมื่อ May 08,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก โพสต์ทูเดย์ - -

 

วัฒนา ขอความเป็นธรรมถูกป.ป.ช. กล่าวหาทุจริตบ้านเอื้ออาทร หลังผ่านมา 12 ปี โวยถูกตั้งธงเล่นงาน เชื่อ เป็นเรื่องทางการเมือง

 

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงกรณีที่อัยการสูงสุดเตรียมนำตัวส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 9 พ.ค.นี้  หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร กล่าวหาเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการเอกชน ให้ได้โควต้าเป็นคู่สัญญาจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้ออาทรกับการเคหะแห่งชาติ 7 โครงการ 7,500 ยูนิต มูลค่า 2,500 ล้านบาท ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เกิดจากเหตุขาดผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ซึ่งเมื่อตนได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี เมื่อ ส.ค. 2548 จึงได้นำเสนอให้คณะกรรมการแก้ไขปรับปรุงทีโออาร์ใหม่ โดยยืนยันว่าไม่มีผลกระทบและเกิดความเสียหายต่องบประมาณ แต่หลังเกิดรัฐประหาร มีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน (คตส.) โดยนายแก้วสรร อติโพธิ เป็นผู้รับผิดชอบ จากนั้น มีการตั้งข้อกล่าวหาตน ว่ามีการออกทีโออาร์ และมีการเรียกรับผลประโยชน์ รวมถึง รับผลประโยชน์ รวม 3 ข้อหา โดยส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวน และส่งสำนวนคืนให้อัยการ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.  2559 และเพิ่งชี้มูลสั่งฟ้องในปัจจุบัน รวมเป็นเวลา 12 ปี

 

นายวัฒนา กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้พบข้อพิรุธมากมาย ทั้งที่จริงๆ คดีไม่มีความซับซ้อน แต่กลับถูกนำไปดองที่ ป.ป.ช. เป็นเวลา 12 ปีเต็ม เหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะจริงๆ ไม่มีพยานหลักฐาน  หากมีคงฟ้องไปนานแล้ว  และคดีนี้ไม่เหมือนกับคดีอื่น คือไม่มีการแถลงข่าวลงเว็บ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบ  ถือว่าเป็นการส่งสำนวนแบบเงียบๆ  ทั้งที่คดีนี้ฟ้องตนในข้อกล่าวหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148  มีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต แต่ผู้ฟ้องกลับกลัวที่จะถูกผู้ถูกฟ้องร้องขอความเป็นธรรม จึงทำให้พบข้อพิรุธของคดีมีมากมาย  เป็นการกล่าวหาสวนทางกับข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ทีโออาร์ที่มีการแก้ไขปรับปรุงในสมัยตนปัจจุบันฉบับนี้ยังใช้อยู่ และที่ผ่านมาไม่พบความเสียหายใดๆ เกิดขึ้น เพราะไม่มีคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายมาที่ตน และการเรียกรับผลประโยชน์จะมีจริงหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่การรับผลประโยชน์คงไม่มีใครให้ฟรีๆ ทุกอย่างต้องมีผลประโยชน์เอื้อกัน คนที่รู้ดีคือผู้ว่าฯ และบอร์ด แต่ในที่สุดแล้ว เรื่องนี้ไม่มีใครโดนข้อกล่าวหา นอกจากตนเพียงคนเดียว  เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นๆ ไม่ถูกชี้มูลความผิด จึงมองได้ว่ามีมูลเหตุทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องจากการรัฐประหาร แต่ตนพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยเบื้องต้นยืนยันที่จะเข้าพบกับอัยการสูงสุด เพื่อนำตัวส่งฟ้องในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ส่วนหลักทรัพย์เพื่อประกันตัว ยังไม่กำหนดไว้ ต้องรอทางศาลกำหนดมาก่อน

 

 

 

 

 

 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน